เปิด ตำนาน พญานาค ถ้ำนาคาสวรรค์ มีความเป็นมาอย่างไร?
ตำนาน พญานาค ถ้ำนาคา บึงกาฬ ไม่มีใครไม่รู้จักแล้วนาทีนี้ ถ้ำนาคาที่ใครหลายๆ คน คลั่งในความศรัทธาพญานาค ซึ่งปกติทาง ภาคอีสาน ของประเทศไทย จะนับถือ และศรัทธาพญานาคกันเป็นอย่างมาก และมีที่ท่องเที่ยวในประเทศ ให้สักการะพญานาคเกือบทุกจังหวัด แต่ที่พลาดไม่ได้ก็ต้องเป็นถ้ำนาคา ถ้ำพญานาค ที่มีลักษณะเป็นก้อนหิน ความแปลกของก้อนหินนั้น เหมือนลำตัวงู มีเกร็ดเหมือนพญานาค และจะมีส่วนที่เป็นสันหลังของพญานาค เป็นในส่วนของช่วงลำตัว ลักษณะที่เป็นทางแคบๆ ที่เป็นไปในตามจินตนาการของคนที่เชื่อ และเป็นความเชื่อของบุคคล ตามจินตนาการของชาวบ้านละแวกแถวนั้น
เป็นเรื่องเล่าขานที่มีมานานเป็น หมื่น ปี แล้วซึ่งชาวบ้านได้เล่ากันมา จะมีเจดีย์ที่เป็นยอดเจดีย์อยู่ด้านบนภูเขาลูกนั้น แต่ก็มีเรื่องของความเชื่อ ที่ชาวบ้านเชื่อว่าที่ตรงนี้เป็นที่แห่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทับอยู่ที่นี้ เพื่อปกปักรักษาคุ้มครอง พื้นที่ตรงนี้อยู่ แล้วก็มีตำนานของเรื่องพญานาค โดยตำนานดังกล่าว มีตำนานเล่าขานนับ 10,000 ปี จะมีเป็นเทพเจ้าชื่อว่า ปู่อือลือ ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า จากนั้นท่านปกปักรักษาสวรรค์ เมืองบาดาล และเมืองมนุษย์ มีเทพเจ้าท่านนึงได้ทำผิดกฎของสวรรค์ ท่านปู่อ์อลือรู้ ท่านจึงส่งให้มาเป็นเทพพญานาค อยู่ที่เมื่อบาดาลได้ลงมาเมืองมนุษย์ ที่เมืองบาดาลจังหวัดบึงกาฬ ต่อมาผู้คนในเมืองบาดาลทั้งมนุษย์ และ พญานาคอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมาก เกิดความอยาก เกิดกิเลส พอได้ไปอยู่ด้วยกันแล้วในเมืองบาดาล จะมีกฏว่าพญานาค ห้ามยุ่งเกี่ยวกันมนุษย์ แต่ในตำนานปรากฏว่า หญิงสาวที่เป็นมนุษย์ ได้มีความสัมพันธ์กับพญานาค ได้ทำผิดกฎเป็นกฎที่ร้ายแรงมาก หากทำผิดกฎ ของเมืองบาดาล ถือว่าผิดกฎของสรวงสวรรค์ โดยปู่อือลือได้ทราบถึงความผิดครั้งนี้ ได้สาปให้ทั้งคู่เป็นหิน เพราะกฎของเมืองบาดาล ทั้งคู่ไม่สามารถมีความสัมพันธ์กันได้ เพื่อที่จะปกปักรักษาเมืองมนุษย์ และเมืองบาดาล ถ้ำนาคาสถานที่ตั้ง อยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติ ภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตอนแรกก่อนที่จะพบเจอ สถานที่ตั้งเป็นป่ารกร้าง และมีวัดอยู่เพียงหนึ่งวัด ชื่อว่าวัดถ้ำไชยมงคล เป็นความสวยงามที่แปลกตา อยู่ล้อมด้วยธรรมชาติ และยังมีเรื่องลึกลับให้กับ ผู้คนที่มากราบไหว้ ที่ถ้ำนาคาหลายๆ เหตุการณ์ มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยว ได้เจองูสีดำตัวใหญ่มาก มาแผ่แม่เบี้ยต้อนรับ ซึ่งตอนแรกนักท่องเที่ยวคนนั้น ได้กลัวเป็นอย่างมาก คิดว่างูจะมาทำร้ายตัวเองแน่เลย แต่เขาได้นั่งคุกเข่าลง และกราบไหว้ท่านงูตัวใหญ่ยักษ์ตัวนั้น ที่กำลังแผ่แม่เบี้ย แต่อยู่ๆ งูตัวนั้นได้หันกลับ และเลื้อยกลับไปเข้าป่า นักท่องเที่ยว ขนลุกมาก คิดแล้วว่าน่าจะเป็นท่านมาต้อนรับตน มาประทานพรให้ มาให้เห็นถึงศักยภาพ ความน่าเชื่อถือของตัวท่าน
และมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่ทำให้นักท่องเที่ยว ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากวันนั้นฝนตกหนักมาก นักท่องเที่ยวกำลังจะเดินทางขึ้นไหว้สักการะท่าน แต่ตอนนั้นฝนตกมาอย่างหนัก เลยจำเป็นที่จะต้องหยุดพักหลบฝนก่อน และ ได้หยุดพักในช่วงลำตัวของท่าน ซึ่งจะเป็นในลักษณะแบบลำตัวพญานาค แบบมีเกล็ดล้อมรอบ ซึ่งนักท่องเที่ยว ก็ยืนหยุดพักเพื่อหลบฝน หลังจากนั้นมีแสงส่งเข้ามาในช่วงหัวของพญานาค ทำให้ทุกคนถึงกับหยุดตะลึง เป็นความประหลาดใจยิ่งนัก ที่ได้เห็นแสงนั้น เหมือนว่าท่านมาแแสดงฤทธิ์ ให้เห็น
สรุป ตำนาน พญานาค ถ้ำนาคา บึงกาฬ
ถ้ำนาคาที่ใครหลายๆ คน คลั่งในความศรัทธาพญานาค ซึ่งปกติทางภาคอีสานของประเทศไทย จะนับถือ และศรัทธาพญานาคกันเป็นอย่างมาก และมีที่ท่องเที่ยวในประเทศ ให้สักการะพญานาคเกือบทุกจังหวัด แต่ที่พลาดไม่ได้ก็ต้องเป็นถ้ำนาคา ถ้ำพญานาค ที่มีลักษณะเป็นก้อนหิน ความแปลกของก้อนหินนั้น เหมือนลำตัวงู มีเกร็ดเหมือนพญานาค และ เป็นเรื่องเล่าขานที่มีมานานเป็น หมื่น ปี แล้วซึ่งชาวบ้านได้เล่ากันมา จะมีเจดีย์ที่เป็นยอดเจดีย์อยู่ด้านบนภูเขาลูกนั้น แต่ก็มีเรื่องของความเชื่อ ที่ชาวบ้านเชื่อว่าที่ตรงนี้เป็นที่แห่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทับอยู่ที่นี้ เพื่อปกปักรักษาคุ้มครอง พื้นที่ตรงนี้อยู่ แล้วก็มีตำนานของเรื่องพญานาคมีตำนานเล่าขานนับ 10,000 ปี จะมีเป็นเทพเจ้าชื่อว่า ปู่อือลือ ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า จากนั้นท่านปกปักรักษาสวรรค์ เมืองบาดาล และเมืองมนุษย์ มีเทพเจ้าท่านนึงได้ทำผิดกฎของสวรรค์ ท่านปู่อ์อลือรู้ ท่านจึงส่งให้มาเป็นเทพพญานาค อยู่ที่เมื่อบาดาล เมืองบาดาล จะมีกฏว่าพญานาค ห้ามยุ่งเกี่ยวกันมนุษย์ แต่ในตำนานปรากฏว่า หญิงสาวที่เป็นมนุษย์ ได้มีความสัมพันธ์กับพญานาค ได้ทำผิดกฎเป็นกฎที่ร้ายแรงมาก หากทำผิดกฎ ของเมืองบาดาล ถือว่าผิดกฎของสรวงสวรรค์ โดยปู่อือลือได้ทราบถึงความผิดครั้งนี้ ได้สาปให้ทั้งคู่เป็นหิน จึงกลายเป็นถ้ำนาคา
แหล่งที่มา : mgronline