ปาฏิหาริย์ เรื่องเล่าคุณแม่บุญเรือน ผู้คนศรัทธามากมาย
คุณแม่บุญเรือน ปาฏิหาริย์ แม่ชีบุญเรือน นั้นถือว่าเป็นฆราวาส ที่มีผู้คนศรัทธามากที่สุดคนนึงไม่แพ้พระเกจิที่มีชื่อเสียงกันเลยทีเดียว คุณแม่บุญเรือนหรือแม่ชีบุญเรือนนั้น ท่านได้กำเนิดในครอบครัวที่มีฐานะลำบากยากจน มีพ่อชื่อว่านายยิ้ม และแม่ชื่อนางสวน ซึ่งจะ อยู่ในชุมชนแบบบ้านๆ ชาวไร้ชาวนา และได้มีอาชีพเป็นชาวสวน ในเวลาต่อมาคุณแม่บุญเรือนนั้น ก็โตมาจากชาวไร้ชาวนา ในชีิวิตวัยเด็กของท่านความเอาใจใส่ การดูแลแบบใกล้ชิดจากพ่อและแม่เป็นอย่างมาก ได้รับการศึกษาให้รู้ภาษาไทย พอที่จะได้อ่านออกเขียนได้และยังได้รับการฝึกสอนจากพ่อและแม่ให้มีความรอบรู้มีความสามารถ ที่จะเติบโตไปเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนได้เป็นอย่างที่ดีเลย เมื่ออายุสิบห้าปีคุณแม่บุญเรือนหรือท่านก็ได้รับ การสอนจากครอบครัว การนวดและชอบมากๆในการนวด จนได้รับ ได้รับการ ครอบครู ได้รับ วิชาหมอนวด จากการได้มอบตำราหมอนวดก็ทำให้ท่านได้ศึกษา วิชาการนวดตามตำราจนท่านั้นเกิดความชำนาญและกลายเป็นแม่หมอ และจนได้เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการนวด ซึ่งในช่วงตอนที่ท่านวัยกำลังเต็มสาว ได้รู้จักกับ คุณตาคือ หลวงพ่อพริ้ง มีหลายคนที่อาจจะเคยได้ยินหรือคุ้นชินกับชื่อนี้ เพราะหลวงตาพริ้งก็คือหลวงพ่อพริ้งแห่งวัดบางปะกอก ซึ่งจะเป็นพระที่โด่งดัง จะเป็นครูของคนที่มีชื่อเสียงหลายท่าน คุณแม่บุญเรือนนั้นด้วยความที่วัด อยู่ใกล้กับบ้านเลยนำอาหาร ไปไหว้หลวงพ่อพริ้งอยู่บ่อยๆทำให้ การสืบทอดเกี่ยวกับเรื่องธรรม ในการดำเนินชีวิต ตามแนวคำสั่งสอนจนท่านได้เริ่มศรัทธาและเริ่มที่จะมีใจรัก ในงานบุญงานกุศลมากขึ้น เลยทำให้ท่านนั้นได้เป็นนักบุญนับตั้งแต่นั้นมา แล้ววัดบางปะกอกนี้ก็น่าจะทำให้ท่านได้รู้สึกรักในเรื่องของ พระพุทธศาสนา จนนำไปสู่การบำเพ็ญภาวนาในเวลาต่อมา เมื่อท่านอายุย่างเข้าวัยสาวอย่างพอสมควรท่านก็ได้มีการสมรส แต่ก็ไม่ได้มีลูกด้วยกันจนกันมาถึงอายุสี่สิบสองปี ก็ได้เกิดตลาดไหม้ที่ตลาดใหญ่เลยทำให้คู่สมรสของคุณบุญเรือนได้เสียชีวิตลง สาเหตุที่คู่สมรสท่านได้เสียชีวิตท่านได้เข้าไปช่วย ผู้คนที่ถูกไฟไหม้ในตลาดใหญ่นั้นเอง เลยทำให้คุณบุญเรือนต้องเป็นหม้าย และอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ตอนนั้น ท่านก็ได้ครองความเป็นโสดบำเพ็ญงานบุญ และได้ใช้นามสกุลของสามีมาโดยตลอด และในความศรัทธาของเรื่องพระพุทธศาสนา ฟังเทศน์ ฟังธรรมที่วัดอยู่บ่อยๆ เพื่อจะได้ลดความเสียใจแต่ท่านก็ได้ชอบและมีจิตใจที่โน้มไปทางพระพุธศาสนาเป็นอย่างมาก ต่อมาท่านก็ได้บวชเป็นชีและอยู่ปฎิบัติธรรม วัดสัมพันธวงศ์ ท่านนั้นปฏิบัติเพื่อให้บริบูรณ์ พากเพียรพยายามฝึกวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์กับ พระมหารัชมังคลาจารย์ จนทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจ แล้วปลอดโปร่งในธรรมมะรักความสงบ และยังช่วยประกอบการกุศลต่างๆไม่ว่าจะเป็นการช่วยปักหมอน ที่ใช้ธรรมมาสเวลาที่พระสวด ไม่ว่าจะมีงานบุญงานกุศลต่างๆ ท่านก็ได้เต็มใจพร้อมที่จะออกแรงช่วยอยู่เสมอเป็นประจำ ไม่เคยขาดเป็นกิจวัตรประจำวันเลย ในความที่บวชที่จิตใจมั่นบำเพ็ญเพียรหัดวิปัสสนากรรมฐาน ทำให้ใจสงบฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งเก่งกล้า และมองเห็นคุณธรรมแสนวิเศษ จนทำให้คุณแม่บุญเรือนนั้นสำเร็จฌานทั้งสี่ แต่เป็นฌานเบื้องต้นชั้นสูง ไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใจต้องเป็นผู้วิปัส สนาอย่างลึกซึ้งเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ได้เอาเป็นว่าคุณแม่บุณเรือนก็จำเร็จจนได้
ความเชี่ยวชาญวิปัสสนา ของท่านนั้นว่ากันว่าเชียวชาญถึงนาดที่ว่า สามารถเข้าวิปัสสนาเมื่อใดก็ได้ และอาจจะเข้าวิปัสสนาในตอนที่ลืมตาด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านนั้นเป็นนักเสียสละ มีอารมณ์ที่นิ่งเฉยต่อทุกเรื่องราวละความโลภ ความอยากได้ในทรัพย์สินต่างๆโดยสิ้นเชิงและแน่นอนว่า ท่านจะเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยจะเป็นผู้รับ แต่จะเป็นผู้ให้ผู้บริการผู้เสียสละให้ผู้อื่นซะมากกว่า ไม่เคยที่ท่านนั้นจะต้องการสิ่งของ ดอกไม้ธูปเทียนหรือแม้แต่เงินทองจากคนอื่นเลย หรือสิ่งของที่มีค่าทุกอย่างเลย ในแรมหนึ่งค่ำเดือนหกแม่ชีบุญเรือนซึ่งท่านอยู่ที่บ้าน ในบ้านพักสถานีข้าราชการแล้วครั้งนั้นแม่ชีบุญเรือน ก็ได้ทำการอธิษฐานจิตไปอยู่ในศาลาที่วัด เหมือนเช่นเดียวกับครั้งก่อนจนบุคคลที่เฝ้าท่านอยู่ต่างก็พากันแปลกใจ ไปตามๆกันที่แม่ชีสามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ที่ ศาลาวัดได้อย่างไรเรื่องนี้เลยสร้างความแปลกประหลาดใจให้กับทุกคน และจึงทำให้ทุกคนได้เชื่อว่าแม่ชีนั้นได้สำเร็จอภิญญาแท้จริงแล้ว ครั้งนึงแม่ชีนั้นได้อธิษฐานเพื่อไปวัง เขาวงพระจันทร์ เพื่อไปพบพระผู้วิเศษขอพระธาตุจากท่าน ท่านก็ได้ให้มาหนึ่งองค์แล้วท่านก็ได้กลับมาที่เดิม ตามคำอธิษฐานพร้อมกับพระธาตุเรื่องเล่านี้ ก็เป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาจากบรรดาลูกศิษย์ของแม่ชี การสามารถสร้างความปาฏิหาริย์เหล่านี้ให้เกิดขึ้น ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก แล้วหลังจากนั้นท่านยังสามารถอธิษฐานจิตให้ไปในที่ไกลๆได้ในช่วงเพียงเวลาสั้นๆ ในตอนที่ท่านยังอายุแค่สามสิบสามปีเท่านั้น และช่วงของอายุแม่ชีนั้นก็มีเรื่องเล่าน่าอัศจรรย์มากมายเรื่องราวนึงเป็นบันทึกของนายจํารัส สุขประเสริฐท่านอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ท่านได้บันทึกไว้ว่าแม่ชีได้มีการเดินทางมากับรถไฟด่วนมาจนถึง อุดนธานีเมื่อเวลาเจ็ดโมงสิบหน้านาที ก็ได้มีหมอกลงตรงบริเวณสถานีรถไฟแล้วในบริเวณตัวเมืองอุดรธานีด้วย ทำให้บริเวณนั้นได้มีหมอกหนาทึบเต็มไปหมด บางคนอยู่ห่างกันแค่นิดเดียวก็ยังมองไม่เห็นกันเลย รถยนต์ที่วิ่งตามท้องถนนก็ต้องเปิดไฟหมอกหนาแล้วมืดขนาดนี้แบบไม่เคยมีมาบ้าน เมื่อรถไฟถึงสถานีประมาณสิบนาทีหมอกขาวหนาค่อยๆจางออกไป จนเป็นที่น่าตกใจ ก็เชื่อกันว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวกับแม่ชีบุญเรือน เมื่อท่านได้ลงจากรถไฟก็มีผู้คนจำนวนมาก มาเยี่ยมเยือนแม่ชีจำนวนมากท่านนึงมีชื่อว่าครรชิต เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ได้พูดกับแม่ชีว่าตัวเขาป่วยเป็นโรคปวดท้อง มาเป็นเวลานานมากแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีอาการปวดอยู่ รักษาเนื้อรักษาตัวจนหมดเงินไปหลายบาทแล้ว เมื่อแม่ชีบุญเรือนได้ฟังและเมตราและพูดว่าอย่าปวดอีกเลยให้หายปวดเดี่ยวนี้ แล้วแม่บุญเรือนถามเขากลับไปว่า หายปวดท้องบ้างยัง นายคนนั้นก็ได้ตอบแบบรวดเร็วว่าหายแล้วครับ ครับ แม่ชีบุญเรือนก็ได้สั่งว่าคืนนี้ห้ามมีอาการปวดนะ เพราะปกติแล้วนายคนนั้นจะบอกว่าจะชอบปวดเมื่อตกดึก นั้น ความเจ็บปวดก็มักจะเกิดขึ้น จนทำให้นอนไม่ได้เลยสักคืนนึงทรมานมากเหลือเกิน พอรุ่งเช้านายครรชิตก็รีบมาบอกแม่ชีว่า เมื่อคืนนี้เขานอนไม่ปวดท้องเลย และหลับสบายมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายครรชิตนั้นคุณแม่บุญเรือน ได้อธิษฐานจิตแผ่เมตราให้หลังจิตแก่ประชาชน ที่มาเยี่ยมมากราบมาหาท่านกันอย่างแน่นทุกวัน จึงทำให้มีเรื่องราวที่อัศจรรย์เกิดขึ้นกับคุณครรชิตนั้นเอง และนอกจากนี้เรื่องเล่าของคุณจำรัสนั้น ก็ยังเล่าว่ามีคนหลังค่อมเวลาเดินต้องใช้ไม้ประคองได้เดินมาหาแม่ชีบุญเรือน ขอให้รักษาให้พอมาถึงแม่ชีบุญเรือนก็ได้ออกคำสั่ง ต่อหน้าคนบริเวณที่มีจำนวนมากตรงนั้นว่า ให้ทิ้งไม้ที่ชายหลังค่อมถือมาประคอง ชายกลังค่อมก็รีบทิ้งไปอย่างไว และคุณแม่ชีบุญเรือนบอกว่าให้ค่อยๆขยับตัวให้ยืนตรง แล้วเชื่อไหมว่าชายหลังโก่งคนนั้นก็ค่อยๆที่จะยืดตัว และเขานั้นก็ค่อยๆที่จะยืนตัวตรงได้ หลังจากนั้นคุณแม่ชีบุญเรือนก็สั่งคนหลังค่อม เดินและเริ่มวิ่งเบาๆปรากฏว่าชายคนนั้น ก็สามารถที่จะวิ่งได้ แถมยังหายปกติเดินกลับบ้านเหมือนกับคนที่ปกติทั่วๆไป ซึ้งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ที่ไม่น่าแทบเชื่อสายตาและนี่แค่เพียงเรื่องราวส่วนน้อย จากคำบอกเล่าของบุคคลและลูกศิษย์คนใกล้ชิดของแม่บุญเรือน ในเรื่องของการรักษาโรคต่างๆให้หาย และยังมีเรื่องของนางเพิ่มตัวเขานั้นได้ไอและอ้วกออกมาเป็นเลือด เป็นแบบนี้มาสามสี่ครั้งแล้ว ไปหาหมอหมอตรวจก็ได้แจ้งมาว่าเป็นวัณโรคแนะนำให้ฉีดยา ซึ้งตัวของนางเพิ่มเองนั้นก็ไม่ได้ยอมฉีดและเดินทางกลับบ้าน ก็ได้ไอออกมาเป็นเลือดอีก มีอาการที่อ่อนเพลียร่างกายป่วยหนักมาก แล้วเมื่อมีโอกาสก็ได้เดินทางไปหาคุณแม่บุญเรือน เพื่อขอให้ท่านนั้นได้ช่วยแนะนำในการรักษา คุณแม่บุญเรือนท่านก็ได้อธิษฐานจิตและนำปูนเอาไปทาที่หน้าอก และคอของเธอแล้วให้ตั้งน้ำอธิษฐานในวันเสาร์ และยังให้น้ำมนต์นั้นไปทานต่อที่บ้าน ตัวนางเพิ่มก็ได้ทำตามคำสั่งของคุณแม่บุญเรือน แล้วเชื่อไหมว่านับตั้งแต่วันนั้นมาเวลาไอ ก็ไม่มีเลือดออกมาอีกเลย อาการที่เคยอ่อยเพลียไม่มีแรง ก็หายไปด้วยร่างกายดีขึ้น จากที่ร่างกายผอมแห้งก็กลับมาอ้วนแถมยังมีการสบายใจมากขึ้นเมื่อ อาการป่วยนี้ได้หายไปจากตัวเขาไปอย่างสิ้นเชิง
เลขเด่น : 2 4 6 8 9 เลขรอง : 34 56 88 21 เลขนำโชค : 09 15 509 541
- ทำนายฝัน เห็นหงส์สีขาว ความหมายของฝัน เลขนำโชคที่ควรรู้
- เลขเด็ด เลขเด็ดหวยดัง ทีเด็ดต้นข่อยโบราณให้เลขชาวบ้านรับโชคนับแสน
- ทำนายความฝัน พยากรณ์ฝัน ‘ฝันเห็นจระเข้’ มีความหมายว่าอย่างไร พร้อมเลขมงคล
- สมัครสมาชิก แทงหวยออนไลน์
แหล่งที่มา : idea2mobile