ตำนานลี้ลับ อาถรรพ์ เจ้าพ่อเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติ
เขาว่ากันว่า ตำนานลี้ลับ เจ้าพ่อเขาใหญ่ เขาใหญ่นั้นนับว่าเป็นป่าดงดิบนั้น ที่สร้างตำนานอาถรรพ์ สืบทอดกันมาหลายช่วงอายุคน และว่ากันเป็นป่าดงดิบที่มีทั้งเทวดาอารักษ์ และวิญญาณอาถรรพ์ต่างๆมากมาย เป็นที่กล่าวขวัญกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ้งผู้คนส่วนใหญ่ที่มีโอกาส เข้าไปในที่ป่าแห่งนี้ต่างก็บอกกันเสียงเดียวกันว่าถ้าเข้าไป ในเจตนาที่ไม่ดีไปทำไม่ดีไม่ร้ายกับป่าหรือฆ่าสัตว์ และตัดต้นไม้ทำลายป่าจะมีเหมือนมีสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังจับจ้อง จับตามองเราอยู่ทุกฝีก้าว และถ้าหากคนผู้นั้นมีสัมผัสที่หกที่มีอำนาจ อาถรรพ์ต่างๆก็จะทำให้ยิ่งรู้สึกอย่างชัดเจนมากกว่าคนปกติ นั้นจึงทำให้ตลอดร้อยกว่าปี มานี้ป่าดงดิบอย่างเขาใหญ่ จึงได้ชื่อว่ากลืนกินนักผจญภัย และพรานป่าไป ไม่ใช่น้อยๆจนมีการตั้งศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้น ให้ปกปักรักษาป่าไม้และดูแลไม่ให้ เกิดอันตรายแก่ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนด้วยปรารถนาที่ดี ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้อยู่กับ เขาใหญ่มาอย่างเนิ่นนาน ผู้คนที่เดินทางเข้าออกป่าแห่งนี้ส่วนใหญ่ก็จะมาบอกกล่าวและมาขอขมาทุกครั้ง โดยมีการนำดอกไม้สด พวงมาลัยหมากพลู ผลไม้อาหารคาวหวานต่างๆมาถวายอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียวนอกจากนั้นสิ่งสำคัญที่ ขาดไม่ได้เลยคือเหล้าขาว ซึ้งถือว่าเป็นเครื่องเส้นไหว้ที่พ่อเขาใหญ่ที่เจ้าพ่อชื่นชอบ เป็นที่สุดไม่เพียงแค่นี้ยังมีคนมาบนขอพร ขอ โชคลาภ ขอสารพัดเรื่อง เรื่องการงาน ความรัก หวย ก็ยังมี ซึ่งมีคนจำนานมากที่สมหวังกัน และกลับมาแก้บนให้ท่าน ไม่ว่าจะขออะไร ส่วนมากแล้วก็จะได้ สมปราถนากัน แต่ต้องมีจิตรเมตตา เมื่อได้มาขอพรจากท่านจึงทำให้ไม่แปลกเลย ที่ชื่อเสียงของท่านจะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และยิ่งถ้าหากถามคนในระแวกนั้นต่างก็ตอบเป็นเสียง เดียวกันว่าอิทธิฤทธิ์ของเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นมากล้นเหลือเกิน จนสามารถดลบันดาลเป็นตามคำขอให้ได้จริง แต่คำขอเหล่านั้นต้องเป็นที่ถูกต้องไม่ทุรจิต หากจะย้อนไปดูประวัติเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้น ได้มีการบันทึกกันไว้ว่าอดีตของท่าน นั้นคือปลัดจ่าง ซึ้งชาวบ้านในยุคนึงรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตท่านเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดิน ท่านมีชื่อเดิมว่าจ่างต่อมาท่านได้มีโอกาสดำรงตำแหน่ง เป็นปลัดกองทัพโดยมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ในระหว่างรับราชการนั้นท่านเป็นผู้ที่เคยผ่านสนามรบกับประเทศใกล้เคียงมานับไม่ถ้วน ซึ่งในการรบแต่ละครั้งนั้นท่าน จะมุ่งมั่นรักษาผืนแผ่นดินของชาติ จนปลัดจ่างเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้ร่วมรบด้วยกันว่าเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและมีความซื่อสัตย์ต่อชาติบ้านเมืองมากๆ เมื่อที่สงครามสงบท่านก็จะออกเยี่ยมเยียนชาวบ้าน และทหารอย่างเป็นกันเอง และถ้าใครมีความเดือดร้อน อะไรท่านก็จะช่วยเต็มกำลังความสามารถเลยทำให้ปลัดจ่างเป็นที่รักของผู้คนทั่วไป ด้วยความสามารถและคุณงามความดีที่ปลัดจ่างให้ทำให้แก่แผ่นดินมาโดยตลอด ทางราชการจึงมอบหมาย ให้ท่านให้เก็บค่ารัชชูปการ ในอาณาเขตจังหวัดนครนายกทั้งหมด หลายฝ่ายก็มองว่าท่านปลัดจ่างนั้นมีความเหมาะสมมากที่สุด เป็นผู้ที่มีความสามารถ ความซื่อสัตย์ในการปฎิบัติหน้าที่ และมีหัวใจที่โอบอ้อมอารีต่อผู้คนผู้คนก็เชื่อถือศรัทธา นอกจากนั้นยังเป็นที่ยอมรับ ของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่อีก เพราะเคยปฎิบัติหน้าที่ด้นการรบ ภาพติดตาในยุคนั้นก็คือการที่ท่านแต่งกายด้วยชุดสีแดง มีดาบเป็นอาวุธและมีม้าเป็นพาหนะคู่ใจ เมื่อท่านได้ข่าวว่าลูกน้องของท่านได้กลับไปเป็นโจรออกปล้นชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ซึ้งขณะนั้นแม้ว่าท่านจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ท่านก็น้อมรับงามชิ้นนี้ด้วยความเต็มใจ เพราะถือว่าเป็นการช่วยชาวบ้าน ในพื้นท่ี่และจะได้ช่วยชาวบ้านกลับมามีความเป็นอยู่ อย่างมีความสุขอีกครั้ง
ท่านจึงรับหน้าที่นี้ด้วยความเต็มใจ เป็นอย่างยิ่งในขณะนั้นป่าเขาใหญ่ประกอบ ด้วยชุมนุมเสือจันทร์ฌศ์ เสือบุญเ สือสำอางและเสือล่าและเสือเย็น เป็นหัวหน้าชุมนุมเสือ หลังจากที่ท่านปลัดจ่างได้ลงไป คุยกับหัวหน้าชุมนุมเสือต่างๆปรากฎว่าส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดียอมที่จะสลายชุมนุมเสือ และด้วยบารมีและผลงานของปลัดจ่างนั้นเอง และเรื่องราวของการปราบโจรปราบเสือร้าย ก็ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณเขาใหญ่ กลับมามีความสุข สงบอีกครั้งด้วยฝีมือของท่าน และแม้ว่าท่านจะเกษียณอายุไปแล้ว แต่ท่านก็ยังคงคอยช่วยเหลือชาวบ้านและงานราชการอยู่ จนกระทั่งท่านได้เสียชีวิตในวัยใ นอายุเจ็ดสิบหน้าปี ด้วยอาการ พิษไข้ป่า ซึ้งหลังจากนั้นชาวบ้านและผู้เกี่ยวข้องก็ได้สร้างศาลเพียงตาให้กับท่าน โดยสร้างใต้ต้นกระบุกใหญ่ที่อยู่บนเขาโดยพากันเรียกศาลแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างแล้วกลายมาเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ ของจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ โดยครั้งนั้นท่านใดมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมพื้นที่เขาใหญ่ และได้เห็นว่าบริเวณเขาใหญ่ มีความสวยงามทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก แต่กลับมีปัญหาเรื่องการบุกรุกป่าของชาวบ้าน การล่าสัตว์ การตัดไม้ทำลายป่า และมีการสร้างที่อยู่ในป่า เลยการมีการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเขาใหญ่ ครั้งยิ่งใหญ่และถือเป็นอุทยานแห่งแรก ของประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นานจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ ได้มีการฝันถึงเจ้าพ่อเขาใหญ่ ให้มีการตั้งศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ไม่นานนั้น ก็ได้มีการตั้งศาลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากนั้นคือจะยกให้เจ้าพ่อองค์ไหน เป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวกว้างขวางเป็นอย่างมาก และในอดีตนั้น มีศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆเป็นร้อยๆศาล ท่านจึงตัดสินใจค้นหาคำตอบเรื่องนี้ ด้วยการลงไปสอบถาม จากชาวบ้านโดยตรง ซึ้งต้องจัดการให้เสร็จภายในสิบสามวัน ก่อนที่จะมีพิธีเชิญเจ้าพ่อเขาใหญ่สถิต ในศาลแห่งใหม่ซึ้งการตรวจสอบ ในแต่ละครั้งจะตั้งจิตอธิษฐาน ให้ปกป้องรักษาป่าเขาใหญ่ ช่วยให้ภารกิจครั้งนี้กำหนดสำเร็จทันเวลาด้วย จากการสอบถามเสาะหาเป็นเวลาหลายวัน จึงได้ข้อสรุปว่ามีเจ้าพ่ออยู่สามองค์ ในบริเวณป่าเขาใหญ่ ที่เป็นเจ้าพ่อเคารพนับถือ มากที่สุดนั้นก็คือ เจ้าพ่อตาแดง เป็นเจ้าพ่อที่ผู้คนรู้จักกันมากในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ้งมีพื้นที่ติดกับป่าเขาใหญ่ด้วย และเจ้า พ่อเขาเขียว ซึ้งเป็นเจ้าพ่อที่มีศาลอยู่บริเวณ ตีนเขาเขียวนั้นเอง นอกจากสองเจ้าพ่อที่เสนอมา ก็ยังมีเจ้าพ่อองค์สุดท้าย องค์ที่สามนั้นก็คืิอเจ้าพ่อปลัดจ่าง แห่งจังหวัดนครนายก ซึ้งเจ้าพ่อท่านนี้แตกต่างจากเจ้าพ่อองค์อื่นๆนั้นคือเคยเป็นเรื่องราว และเคยมีชีวิตที่มีอยู่จริงมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตำนาน นอกจากนั้นในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ท่านก็ได้ทำความดีคอยช่วยเหลือชาวบ้าน อยู่ตลอดและประเทศชาติมาโดยตลอด จนเป็นที่รักของผู้คนในยุคนั้น จนชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบๆเขาใหญ่ต่างยืนยันกันว่า เจ้าพ่อปลัดจ่างนั้นท่านเป็นเจ้าพ่อ ที่องค์ประทานจากเขาใหญ่จริงๆ ซึ้งในขณะนั้นก็ได้เร่งมือจัดศาลเขาใหญ่ จนเสร็จสิ้นลงและก็ได้อันเชิญ เจ้าพ่อปลัดจ่าง มาสถิต เป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ และได้มีชื่อว่่าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นต้นมา
- เลขเด่น : 3 5 7 2
- เลขรอง : 43 56 21
- เลขนำโชค : 78 432 990
- ฝันว่าได้แหวนทอง ความหมายว่าอย่างไร
- ถูกรางวัลที่ 1 เจ้านายซื้อให้ รับขวัญ วันเกษียณ รับเต็มๆ 12 ล้าน
- หวย เลขเด็ดพระพิฆเนศ ช่วยปลดหนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน
- สมัครสมาชิก แทงหวยออนไลน์
แหล่งที่มา : matichon