วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดบึงกาฬ
วัดภูทอก หรือวัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่ที่จังหวัดบึงกาฬ สถานที่แห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ โด่งดังของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นทั้ง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไฮไลท์ของวัดนี้ ก็คือภูเขาที่ตั้งอยู่ด้านหลัง ของวัดนั่นเอง ที่ผู้คนหรือชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่าภูทอก มีความหมายคือแปลว่า ภูเขาโดดเดี่ยว เขาภูทอกแห่งนี้ เป็นเขาที่มีหลายชั้น รวมแล้วทั้งหมดมี 7 ชั้น แต่ละชั้นนั้นจะทำขึ้น ด้วยบันไดไม้ ที่ทำขึ้นมาด้วยแรงงานคนทั้งหมด มีที่มาว่าสะพานไม้หรือบันไดไม้ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาทำนานถึงหลายปี แต่ละชั้น จะเป็นสะพานล้อมรอบตัวภูเขา แบบ 360 องศา สามารถชมวิว ได้แบบสวยงามรอบภูเขา เชื่อกันว่าเส้นทางขึ้นภูทอก เป็นเส้นทางความมุ่งมั่น เพราะในการที่จะขึ้นไป ถึงในแต่ละชั้นของเขานี้นั้น ต้องใช้ความอดทน และใช้เวลานานเป็นอย่างมาก เพราะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น แต่ละชั้นก็จะมีป้ายบอกทางให้ตลอด ระหว่างทางที่ขึ้นไป ก็จะมีจุดพระพุทธรูปให้ได้ชมเป็นจำนวนมาก
ว่ากันว่าหากใครได้ขึ้น ไปถึงชั้นบนสุด ก็จะได้บุญมาก เพราะนั่นถือว่าเป็นเส้นทางสู่ธรรม จะต้องใช้ความอดทน และทำใจไม่ให้กลัวเวลาขึ้นไป เพราะทางขึ้นนั้นน่ากลัวมาก ทั้งสูงทั้งชัน และยังน่ากลัวมาก ๆ บางจุดที่สะพานไม้ ก็จะมีผุพังไปบ้างตามกาลเวลา หากไปช่วงหน้าฝน หรือเกิดมีฝนฟ้าตกลงมาตอนกำลังเดินนั้น ถือว่าอันตรายมาก เพราะตามบันไดเก่าอาจจะทำให้ลื่นได้ จึงต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ หรือบางจุดอาจจะเป็นทางแคบ ๆ ติดหน้าผา บางคนที่กลัวความสูง อาจจะกลัวเอามาก ๆ ในส่วนของชั้นที่ 7 นั้นคือสูงสุดของเขา จะมีนักท่องเที่ยวหลายคน ไปปักธงชาติไทย เชื่อว่าคือการหมายถึงจุด ที่สูงที่สุดในเขานี้ หรือบางคนก็ขึ้นไปถ่ายรูปกับธง เพื่อเป็นความทรงจำใจว่า มาถึงจุดสูงสุด บางคนก็ถ่ายวิวเก็บไว้ เพราะมันสวยมาก หากไม่เห็นกับตาก็ไม่เชื่อว่ามันสวยมาก ๆ ระหว่างทางอาจจะน่ากลัวอันตราย แต่หากได้ชื่นชมวิวไปด้วย ก็อาจจะทำให้หายกลัวไปบ้าง เพราะวิวระหว่างทางนั้นสวยมาก
ข้อแนะนำและ ข้อห้ามของวัดภูทอก
1.ท่านจะต้องแต่งกายให้สุภาพ ให้เหมาะแก่สถานที่ ห้ามใส่เสื้อกล้าม หรือกางเกงขาสั้น
2.ห้ามส่งเสียงดัง เพราะจะเป็นการรบกวนพระหรือเณรในวัด
3.ห้ามนำของมึนเมา และห้ามนำอาหารเข้าไปในสถานที่เด็ดขาด
4.ห้ามขีดหรือเขียนที่หินบนภูทอกเด็ดขาด
ภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น
- ชั้น1 จะเป็นชั้นเริ่มต้น จะเป็นบันไดไม้ให้เดินไปเรื่อย ๆ เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ
- ชั้น2 ยังคงเป็นบันไดไม้อยู่เหมือนกับ ชั้นที่1 เพราะยังถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยังไม่เยอะ
- ชั้น3 เป็นเช่นเดียวกันกับ ชั้นที่1และชั้นที่2 บันไดไม้จะเริ่มชันขึ้น แต่ก็จะมีต้นไม้ และธรรมชาติให้ท่านได้ชม ในระหว่างการเดินทาง
- ชั้น4 จะเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และหากเราขึ้นมาถึงชั้นนี้ จะเป็นทางราบให้เดินชม รอบภูเขาเรื่อย ๆ
- ชั้น5 จะมีศาลาและกุฏิพระภิกษุสงฆ์ ห้ามส่งเสียงดังรบกวนเด็ดขาด
- ชั้น6 จะเป็นทางแคบมาก ๆ จะต้องระมัดระวังให้มาก สำหรับชั้นนี้ เพราะจะเป็นสะพานไม้ที่แคบ และติดกับหน้าผาสูง และวิวก็จะสวยมาก ๆ ด้วย
- ชั้น7 เป็นชั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นทางที่ชันมาก และไม่มีสะพานไม้ แต่จะเป็นทางป่ารกทึบ และเป็นดินต่างระดับ ชั้นนี้ไม่ค่อยจะมีคนขึ้นไปสักเท่าไหร่ เพราะมันน่ากลัว อาจจะทำให้หลงทางได้ เพราะไม่มีป้ายบอกทาง เหมือนกับชั้น 1 – 6
และด้านล่างของเขานี้ หรือทางเข้าก่อนที่จะขึ้นเขามานั้น ก็จะมีจุดให้กราบไหว้พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ท่านคือผู้ที่ค้นพบและสร้างที่แห่งนี้ ซึ่งท่านได้เห็นจากนิมิตรของท่าน เลยได้มาพบกับที่แห่งนี้ เลยสร้างมาเป็นวัดเจติยาคีรีวิหาร มีจุดให้ทำบุญ และเสี่ยงเซียมซี กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าเป็น สถานที่ขอพร ขอโชคลาภ ขอความโชคดีให้ชีวิต ของตนเองนั้นมีแต่โชคลาภ และเรื่องราวดี ๆ เข้ามา ยิ่งคนที่ขึ้นไปบนภูทอก จะถือว่าได้ปลดปล่อยสิ่งไม่ดี ออกไปจากชีวิตแล้ว
- จุดเช็คอินขอพร นครศรีธรรมราช สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพร
- สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แดนใต้ วัดพะโคะ บารมีหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
- จุดเช็คอินกาญจนบุรี ไหว้พระขอพร ชมวิวน้ำตก ชิมอาหารรสเด็ด ต้องที่นี่!
- ฝันว่ามีดบาดมือ คำทำนายฝัน จะดี หรือ ไม่? เช็กเลย!! พร้อมเลขเด็ด
Picture Credit by : unithaitravel