สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แดนใต้ วัดพะโคะ เลื่องลือความศักดิ์สิทธิ์ ถิ่นกำเนิดหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แดนใต้ วันนี้พาล่องมาถึง วัดพะโคะ ถือเป็น สถานที่ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของชาวจังหวัดสงขลา เดิมสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้ผ่านกาลเวลามาจนถึงยุคสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา จัดเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงมีสถาปัตยกรรม ที่สวยสดงดงามมากมายคู่บ้านคู่เมืองมานาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ว่ากันว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องได้ไปสักการบูชาด้วยตัวเองสักครั้ง ซึ่งไฮไลต์สำคัญของวัดแห่งนี้ ที่ทำให้หลายๆ คนจดจำได้ เพราะเกี่ยวข้องกับตำนาน หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือ สมเด็จพะโคะ ซึ่งจากประวัติความเป็นมา ที่ได้เล่าสืบต่อกันรุ่นสู่รุ่น ได้บอกไว้ว่า วัดแห่งนี้คือที่จำพรรษาของท่าน ซึ่งตัวท่านเองนั้นมีส่วนที่เข้ามาช่วยในการบูรณะวัดขึ้นมาอีกด้วย ในสมัยนั้นท่านขึ้นชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ดัง ไม่ว่าจะพระลูกวัดด้วยกัน หรือ เหล่าบรรดาผู้ศรัทธาทั่วทิศก็ต่างเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นพระเกจิอาจารย์ดังอันดับต้นๆ ของชาวใต้ ที่มักจะนิยมหาเครื่องรางของขลัง ที่เกี่ยวข้องกับท่าน มาติดตัวไว้ เพราะเชื่อว่าจะช่วยคุ้มกันภัย ให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ ทั้งหลาย

ประวัติวัดพะโคะในอดีต (อ้างอิงตามข้อมูล)

ในอดีตวัดแห่งนี้ มีชื่อเรียกว่า วัดราชประดิษฐาน ตามประวัติ พระชินเสนเป็นประสงค์รูปหนึ่ง ได้เป็นผู้ก่อตั้ง ประมาณในปี ๕๐๐ ทำเลที่ตั้งของวัดเป็นภูเขาลูกเล็ก บนเนินสันทราย เพียงลูกเดียวในบริเวณนั้น ในอดีตชาวบ้านบริเวณนั้นเรียกเนินเขาลูกนี้ว่า เขาพัทธสิงห์ ในปีต่อมาก็ได้มีการบูรณะขึ้นเรื่อยๆ โดยการนำพระมหาธาตุจากเมืองลังกา มาสร้างเป็นเจดีย์ยอดเขาสูง สูง ๑ เส้น ๕ วา ซึ่งเราสามารถมองเห็นยอดเจดีย์ได้จากมุมไกลๆ ซึ่งต่อมา เมื่อได้มีการสร้างพระพุทธไสยาสน์ ที่มีชื่อว่า “พระพุทธโคตมะ” ตามชื่อพระรูปหนึ่ง รวมถึงได้มีการสร้างสถาปัตยกรรมทางใต้โบราณ แนวศิลปะลังกา และบ่อน้ำซักจีวรของหลวงปู่ทวด อีกหนึ่งจุด ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน หากมีโอกาสได้ไป จะเห็นประชาชนแห่เข้าไปร่วมขอพรกันมากมาย ณ จุดนั้น พร้อมเสี่ยงโชคโดยการโยนเหรียญลงบ่อ ตามความเชื่อความศรัทธาของกลุ่มคน และนอกจากนี้ ในอดีตที่ผ่านมา สมัยช่วงอยุธยานั้น ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางหลักของคณะสงฆ์ และในอดีตยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา หรือ ที่เรียกว่าการ ดื่มน้ำสาบาน เป็นพิธีกรรมของพระบรมวงศานุวงศ์ และบุคคลภายในชั้นสูงสมัยก่อน สำหรับวัดแห่งนี้ ก็คือที่ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ของเจ้าเมืองพัทลุงสมัยก่อนนั่นเอง ในอดีตบริเวณทะเลสาบสงขลา เป็นศูนย์การปกครองของเมืองพัทลุง

ที่มาที่ไปวัดพะโคะ เกี่ยวกับตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล

ยึดตามประวัติจากทางพงศาวดาร ตามประวัติเล่ากันว่าหลวงปู่ทวด เกิดที่ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องการเดินทางกลับบ้านเกิด และได้เข้ามาที่วัดแห่งนี้ พร้อมทั้งบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ ก็สืบเนื่องกับเรื่องราว ปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มีการเล่าสืบต่อกันมาว่า มีอยู่วันหนึ่งมีกลุ่มโจรเดินเรือแล่นผ่านมา บังเอิญเจอกับหลวงปู่ทวด จากที่เห็นสักการะและรูปลักษณ์ของท่านที่แตกต่างจากคนอื่น จึงคิดที่จะลองดีเกินความท้าทายขึ้นมา เลยเดินเรือมาตามฝั่ง และได้จับหลวงปู่ทวดขึ้นไปอยู่บนเรือ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เรือแล่นไปได้ไม่นาน ก็หยุดลงไม่สามารถไปต่อได้ ติดค้างอยู่วันต่อหลายวัน จนน้ำจืดที่เก็บสะสมไว้นั้นหมดสิ้น ซึ่งในตอนนั้นเรือได้ลอยอยู่ในทะเล ที่น้ำมีความเค็ม ทำให้โจรกลุ่มนี้รู้สึกร้อนรนทุกข์ใจอย่างมาก จนในที่สุดหลวงปู่ทวดก็ได้นำเท้าไปแช่น้ำทะเล และเกิดเป็นประกายโชติช่วงขึ้นมา จากน้ำทะเลที่เค็ม กลายเป็นน้ำจืดที่สามารถกินได้ พวกโจรที่จับตัวท่านไว้จึงเกิดความเลื่อมใสและรีบขอขมา นำท่านส่งขึ้นฝั่งโดยเร็วพลัน เมื่อความศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ แพร่งพรายออกไป ก็ทำให้เหล่าชาวบ้านผู้ศรัทธาแวะเวียนกันมากราบไหว้ไม่ขาดสาย อย่างต่อเนื่อง