โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือเชื้อจุลินทรีย์ชนิดหนึงที่มีชีวิต โดยจุลินทรีย์เหล่านี้จะเข้าไปอาศัยในลำไส้ใหญ่และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายได้ โดยจะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ ช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่ดีให้มีจำนวนมากขึ้น และช่วยลดแบคทีเรียที่ไม่ดีให้มีจำนวนลดลง ซึ่งจะส่งผลทำให้อาการท้องอืด ท้องผูก ท้องเสียและสารก่อมะเร็งต่างๆ ลดน้อยลง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติค่ะ
1. โยเกิร์ต
อาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูงอย่างแรกๆ ที่เราจะนึกถึงนั่นก็คือโยเกิร์ตนั่นเองค่ะ โดยโยเกิร์ตนั้นเกิดจากการนำนมไปหมัก ทำให้เกิดจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ขึ้นมาและมีในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดี เพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีค่ะ
2. ผักดอง
ผักดองไม่ว่าจะเป็นแตงกวาดองแบบอาหารฝรั่ง ผักดองแบบอาหารจีน หรือจะเป็นผักดองของไทย ก็จัดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ค่ะ และนอกจากนี้ยังมีวิตามินที่จำเป็นกับร่างกาย ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ช่วยลดการเกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้ ลดอาการท้องผูกและช่วยปรับระบบการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
3. กิมจิ
กิมจิก็ถือเป็นผักดองชนิดหนึ่งค่ะ ชาวเกาหลีนิยมกินคู่กับเนื้อย่างหมูย่าง หรือแม้แต่จะกินคู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้ โดยกิมจิจัดเป็นอาหารประจำโต๊ะที่แทบขาดไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งการกินกิมจินี้ก็จะช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องอืดท้องเฟ้อ รวมถึงยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ
4. มิโซะ
มิโซะคือเครื่องปรุงในอาหารญี่ปุ่น โดยมาจากการหมักข้าวหรือถั่วเหลืองกับเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งในกระบวนการหมักนี้เองจึงทำให้เกิดจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ค่ะ ซึ่งช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ นอกจากนี้ในมิโซะยังมีโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ ซุปมิโซะหรือซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นถือเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้ ปรับสมดุลในร่างกายและยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ
5. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple-cider vinegar) สามารถนำมาประกอบอาหารก็ได้ หรือจะนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพก็ได้ ซึ่งสำหรับคนที่กินคิโตก็นิยมนำน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลมาผสมกับน้ำเปล่าหรือโซดา ดื่มระหว่างวันเพื่อช่วยย่อยอาหารและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีโพรไบโอติกส์ที่สามารถช่วยลดอาการท้องผูก ไม่ค่อยขับถ่าย ช่วยปรับระบบการขับถ่ายให้กลับมาสมดุลค่ะ
6. คอทเทจชีส
คอทเทจชีสหรือชีสสด จัดเป็นชีสที่มีโปรตีนและแคลเซียมในปริมาณสูง รวมถึงยังมีโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และยังเป็นอาหารที่เหมาะกับการลดน้ำหนักด้วยค่ะ โดยวิธีการกินคอทเทจชีสก็สามารนำมากินคู่กับขนมปังโฮลวีท หรือจะใส่ผลไม้และธัญพืชต่างๆ ลงไปผสมก็ได้ค่ะ
7. พาร์มีซานชีส
พาร์มีซานชีสถือเป็นเนยแข็งชนิดหนึ่ง ลักษณะของพาร์มีซานชีสจะมีความแข็ง มีกลิ่นแรงและมีรสชาติเค็มมัน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด ทั้งการขูดเป็นเส้นๆ เพื่อใช้โรยหน้าสลัด คาโบนาร่า หรือแม้แต่การนำพาร์มีซานชีสมาทอดบนกระทะเฉยๆ ก็จะได้ชีสกรอบเอาไว้เป็นอาหารกินเล่นก็ได้ค่ะ พาร์มีซานชีสจัดเป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ โดยสารอาหารภายในพาร์มีซานชีสจะมีลักษณะคล้ายกับโยเกิร์ตเลยค่ะ
8. ดาร์กช็อกโกแลต
ดาร์กช็อกโกแลต เป็นช็อกโกแลตที่มีน้ำตาลและไขมันต่ำและถือเป็นของกินเล่นที่มีประโยชน์รวมถึงยังเป็นอาหารว่างที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักด้วยค่ะ โดยดาร์กช็อกโกแลตถือเป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารและทางเดินอาหารเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หากเรากินเป็นประจำก็จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคต่างๆ เกี่ยวกับลำไส้ได้ค่ะ
9. คอมบูชา
ชาหมักคอมบูชา (Kombucha) มีโพรไบโอติกส์สูง นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียนชนิดไม่ดีให้ออกไปจากร่างกาย ช่วยปรับสมดุลทำให้อาการท้องร่วง ระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติ อาการขับถ่ายผิดปกติลดน้อยลง ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้และยังสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ค่ะ
10. เทมเป้
เทมเป้เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวอิโดนิเซีย โดยจะใช้ถั่วต้มสุกนำมาหมักกับหัวเชื้อเทมเป้ มีสีขาวอัดแน่นไปด้วยถั่ว เนื้อนุ่มสามารถหั่นเป็นชิ้นๆ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่กินมังสวิรัติ วีแกนและผู้ที่ต้องการโปรตีนเพิ่มเติม เทมเป้มีโปรตีนสูงเพราะทำมาจากถั่ว นอกจากนี้ยังมีสารเลซิทินที่สามารถช่วยสลายไขมัน ป้องกันไม่ให้ไขมันเกาะในเส้นเลือด มีวิตามินบี12 ป้องกันไม่ให้เลือดจาง มีไฟเบอร์สูงและยังมีโพรไบโอติกส์สูงอีกด้วยค่ะ
- ไข่ไก่ มีประโยชน์มากกว่า 10 ชนิด ควรรับประทานยังไง ให้พอเหมาะ
- การดูแล สุขภาพจิตให้แข็งแรง เพื่อชีวิตที่มีความสุข 9 วิธี
สรุป โพรไบโอติกส์ 10 อาหาร ปรับสมดุล
ซึ่งเราสามารถรับจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ได้ผ่านทางการกินอาหาร แต่ก็ไม่ใช่อาหารทุกชนิดค่ะ มีเพียงอาหารบางชนิดเท่านั้นที่มีโพรไอโอติกส์ในปริมาณสูง และหากกินเป็นประจำติดต่อกัน 2 – 3 สัปดาห์ก็จะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ ซึ่งอาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูง