ตำนานศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพ่อเซียงโด ส่อง เลขนำโชค พิธีบวงสรวง

เมื่อตอนเช้าของวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ที่ ศาล เจ้าพ่อเซียงโด ที่ตั้งอยู่บริเวณ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ้านผือ จังหวัดสุรินทร์ ได้มีการจัดพิธีตาม ความเชื่อของคนโบราณ ทำการ รำบวงสรวงเจ้าพ่อเซียงโด ในงานประจำปีประเพณีบุญบั้งไฟ ตามธรรมเนียมของคนบ้านผือ จังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นเป็นประจำของทุกๆ ปีเพื่อเป็นการรักษาความเป็นอยู่ ขนบประเพณี ความเชื่อ ที่มีมานานตั้งแต่โบราณ ให้มีอยู่ และสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น โดยมีชาวบ้าน และคนในชุมชนบ้านผือ นับพันคน ร่วมในพิธีบวงสรวงวันนี้ หลังจากพิธีเปิด เพื่อเปิดงานประจำปี และได้มีการอธิษฐาน ขอพร ให้ฟ้าฝนตกลงมาตามฤดูกาล ข้าวปลาอาหารไม่มีการขาดแคลน ให้อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีนางรำกว่าหลายร้อยคน ร่วมฟ้อนรำอย่างสวยงาม หลังจากเสร็จพิธีรำ บูชาเจ้าพ่อเซียงโด ก็ได้มีชาวบ้านที่มีความนับถือ ได้เข้าไปจุดธูป จุดเทียน เพื่อสักการะและ อธิษฐาน ขอพร ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเซียงโด เพื่อขอโชคลาภโดยใช้ ธูป เพื่อเป็นการเสี่ยงทาย ตามความ เลื่อมใส ศรัทธา ของชาวบ้านที่มีมายาวนาน และหลังจากที่ธูป ไหม้จนหมดนั้น ธูปเสี่ยงทาย ก็ปรากฏให้เห็นเป็นเลข ซึ่งคนในงานต่างพากันดีใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่มีการคิดให้จุดธูปเสี่ยงทายขึ้นมา เพราะว่าพิธีนี้ไม่ได้จัดมานานแล้วนับร่วม10กว่าปีเลยก็ว่าได้ เพราะแต่เดิมนั้นก็จะมีแค่เพียงคนที่ศรัทธาเจ้าพ่อเท่านั้น ที่จพมากันมาสักการะกราบไหว้ และอธิษฐาน ขอพรกันตามปกติ เพราะว่าเมื่อก่อนที่ตรงนี้นั้นไม่ได้มีการปรับปรุงให้สะดวกขึ้น ทางเข้า – ทางออกก็ค่อนข้างที่จะลำบาก เป็นท่ารกทึบ ส่วนคนที่ได้เข้ามาขอพร ก็สมดั่งใจหวังกันไปหลายคน จนเป็นที่เล่ากันมาต่อกันๆในเรื่องของ ความศักดิ์สิทธิ์ และในเรื่องของ โชคลาภ เช่นกัน

เจ้าพ่อเซียงโด พิธีบวงสรวง ส่องเลขนำโชค — ตำนานศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพ่อเซียงโด ส่อง เลขนำโชค พิธีบวงสรวง

แต่ในครั้งนี้นับเป็นธรรมเนียมบูชาบวงสรวงที่คิดว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก และเป็นครั้งแรกของคนในพื้นที่ ที่ได้มีการจัดพิธีนี้ขึ้นหลังจากที่เงียบหายไปนานเป็นสิบๆปี ทำให้หลายคนตื่นเต้นมาก และต่างก็จะนำเอาเลขมงคล ที่ได้จากการจุดธูป ไปเสี่ยงโชคซื้อ ลอตเตอรี่ ในงวดที่จะมาถึงนี้ โดยหวังจะมีโชคกันทุกคน นาย รินทร์ อายุราวๆ 80 ปี เป็นคนเถ้าคนแก่ ของชาวชุมชนบ้านผือ ได้เล่าให้เราฟังว่า ในเรื่องความน่านับถือนั้น จากที่ตนเองได้เคยสัมผัสมา มีครั้งหนึ่ง มีคนจากบ้านหนองเทพ ซึ่งสมัยก่อนพวกเขานั้นจะเดินทางมาซื้อพวกอาหาร ของกิน ของใช้ ที่ตลาดอ.รัตนบุรี จะโดยสารกันมาด้วยการเดินเท้าเปล่า เพราะสมัยก่อนยังไม่มีรถ และระหว่างที่เดินทางกัน พวกเขาก็จะต้องแวะทานข้าวเที่ยงกันที่ ขอดเซียงโด ซึ่งจะเป็นแหล่งที่มีน้ำผุดขึ้นมาจากดิน และต่างจะพากันมาตักนำที่นี่กิน แต่มีคนหนึ่งที่ร่วมเดินทางมานั้น ได้ทักขึ้นมาว่านำที่นี่มีกลิ่นแปลกๆ เหม็นมาก เหม็นเหมือนตด แต่ทว่าที่จริงแล้วนั้นน้ำที่นี่จะต้องมีกลิ่นหอม เพราะเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากดินขาว เพราะดินขาวนั้นมีกลิ่นหอม ชาวบ้านแถวนี้ก็มักจะมาตักน้ำที่นี่ไปดื่มกัน เพราะบอกว่ามีกลิ่นหอมอร่อย แต่ในส่วนของคนที่ทักมาว่าน้ำเหม็นนั้น เมื่อเขาได้เดินทางต่อก็รู้สึกว่าเขาจะเงียบๆไป แต่ก่อนจะถึงตลาดนั้นพวกเขาก็จะแวะพักกันที่บ้านผือใหญ่ อยู่ไม่ไกลจาดตลาดที่พวกเขาจะไปซื้อของ ปรากฏว่าชายคนที่บอกว่าน้ำเหม็นเหมือนตดนั้น ก็ได้นอนอย่างแน่นิ่ง มีคนปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงได้เรียกหมอบ้านๆ แถวนั้นมาดูปรากฏว่าชายคนนี้ตายแล้ว ซึ่งได้นอนตายไปเลยเฉยๆ นับแต่นั้นมาชาวบ้านต่างก็เล่าลือกันไปถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเซียงโด ซึ่งคนที่นี่ก็มักจะพากันมา สักการะกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อเซียงโด กันทุกๆปีในช่วง เดือนเมษายน โดยเฉพาะคนทีี่มาขอพรและสมดั่งใจหวังกันไปก็มักจะมากันบ่อยมาก

สรุปตำนานศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพ่อเซียงโด

ศาลเจ้าพ่อเซียงโด ตั้งอยู่ที่ต้นน้ำห้วยแก้ว บ้านผือ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นตาน้ำผุดที่ขึ้นมาจากใต้ดิน เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมีมานานนับ 100 ปีแล้ว โดยน้ำได้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า “อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว” ที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคของชาวอำเภอรัตนบุรีมายาวนาน ปัจจุบัน มีมานานนับร้อยปี และนำในที่นี้ยังเป็นนำที่คนใช้ในการอุปโภคและบริโภคของคนทั้งอำเภออีกด้วย ตอนนี้ได้กลายเป้นแหล่งน้ำประปาของอำเภอไปแล้ว และยังใช้สำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายไปทั่วทั้งอำเภอและบริเวณใกล้เคียง ศาลเจ้าพ่อเซียงโดนั้นยังไม่มีใครทราบประวัตืที่แน่ชัด ว่ามีการก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็มีคนเถ้าคนแก่ บอกกันมานักต่อนัก รุ่นต่อรุ่นว่ามีมา นานนับร้อยปี และที่สำคัญมีความ ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องขอพรขอเลข และ ขอโชคลาภ